การสร้างบางสิ่งบางอย่างบนโลกด้วยตัวเราเอง เราจะสร้างขึ้นในที่ที่เรามีส่วนประกอบครบ
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบ อุปกรณ์ เครื่องมือ ความช่วยเหลือ การร่วมมือกับคนอื่น ซึ่งถ้าเราขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งเราจะไขว่คว้าหามาให้ครบเพื่อสร้างสิ่งที่เราต้องการให้ได้
ไม่ว่ามันจะอยู่ไกลแค่ไหน สรรหาได้ยากเพียงไร คือ การทำให้สภาพแวดล้อมและบรรยากาศในการสร้างสรรค์พร้อมสำหรับการสร้างสิ่งที่มีคุณค่าขึ้น
ไม่ว่าคุณจะอยู่สถานะใดของคำถามที่กล่าวมาข้างต้นหรือนอกเหนือคำถามต่างๆเหล่านี้
คำตอบของคำถามทั้งหมด คือ “เรา”
ตัวตนที่ยึดถือว่าของเรา จะเป็นผู้สร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่เห็นว่ามีคุณค่าต่อโลก
หรือไม่กระทำสิ่งใดเพราะเห็นว่าการทำสิ่งต่างๆบนโลกไม่มีคุณค่าใดๆ เราเท่านั้นที่จะทำให้แก่นแท้ของแรงบันดาลใจมีพลังมหาศาล
องค์ประกอบต่อไปคือ “เรา” ตัวตนของเราที่จะนำมาสู่การสร้างสรรค์สิ่งที่เป็น
“งานของเรา หรือของๆเรา” เรามีร่างกายเป็นเครื่องมือของการสร้างสรรค์ มีอวัยวะภายนอกที่เราสามารถสั่งให้อวัยวะเหล่านั้นทำอะไรก็ได้
รวมไปถึงอวัยวะภายในซึ่งเราจะต้องดูแลให้มันเผาผลาญไปได้อย่างไม่ติดขัด หากเราปราศจากอวัยวะที่พร้อม ร่างกายที่พร้อม
เราอาจจะหมดโอกาสที่จะทำบางอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำอีกหลายร้อยอย่างหรือมากกว่าที่อยู่ในโลกนี้ไม่ได้
เพราะเรายังมีพลังของจิตใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์
เป็นส่วนประกอบของเรื่องราวทั้งหมด เป็นพลังในการขับเคลื่อนให้เราสร้างสิ่งที่มีคุณค่าให้เพื่อนมนุษย์ได้รับรู้
เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดนำมาสู่ความคิดในการจัดระบบ การวางแผน การแก้ปัญหา
การสร้างความร่วมมือ
ความคิดที่จะผสมผสานจากหลายๆสิ่งที่อาจจะไม่มีคุณค่าอะไรมาประกอบกันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าขึ้น ซึ่งจะขอเรียกพลังของจิตใจนี้ว่า “แรงบันดาลใจ”
แรงบันดาลใจ
มีลักษณะดังต่อไปนี้เพื่อทำให้เรานำมาใช้ในการสร้างสรรค์ (ทัศนของผู้เขียน)
1.ทำให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย
2. ทำให้เราไม่อ่อนไหว ต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป
3. เกิดความอดทน ความมีวินัย
ที่จะทำสิ่งนั้นๆ อย่างต่อไปเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง
4. ทำให้รู้สึก
ไม่ท้อแท้ ไม่เบื่อหน่าย สนุก ชื่่นชมในสิ่งที่ทำ
ภูมิใจอย่างเป็นที่สุด รู้สึกดีเมื่อได้แบ่งปัน
หลายๆ คนอาจให้คำนิยามมันได้มากกว่านี้ แต่สิ่งสำคัญของแรงบันดาลใจ
คือ มันเป็นแก่นแท้ของการสร้างสรรค์ หากเรามีพลังแห่งแรงบันดาลใจมาก
มันจะนำไปสู่การสร้างสิ่งที่มีคุณค่าให้ผู้คนต่อเนื่องไปเรื่อยๆ เมื่องานหนึ่งจบลงจะเกิด
“จุดเชื่อมต่อ” ระว่างแรงบันดาลใจใหม่ กับ แรงบันดาลใจเดิม ซึ่งมาจาก ผลตอบรับของงานที่ทำ
หากผลออกมาดีแรงบันดาลใจใหม่จะเป็นกำลังเสริมให้ของเดิมมีพลังมากขึ้น
เป็นแรงผลักดันให้เราสร้างสรรค์ต่อไป แต่ถ้าผลตอบรับออกมาในทางที่เลวร้าย
แรงบันดาลใจใหม่อาจไม่เกิด ซ้ำทำให้ของเก่าอ่อนกำลังลง อาจถึงขั้นเลิกทำก็เป็นได้
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร จะเกิดทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งอยู่ที่เราจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร เช่น หากผลออกมาดีเราอาจจะอยากทำต่อเพราะผลลัพธ์ที่ออกมาดีมาเสริมแรง แต่ ถ้าเราหลงระเริงในสิ่งที่ทำมากเกินไปอันเนื่องจากความสำเร็จนั่นจะทำให้ก้าวไปสู่สิ่งที่ผิดพลาดได้ เพราะเราขาดความระมัดระวัง มีความมั่นใจมากเกินไป และถ้าผลออกมาในทิศทางที่เลวร้าย ถึงแม้จะทำให้เรารู้สึกท้อถอยหมดแรงบันดาลใจ แต่ถ้าหากนำความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นมาเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวต่อเพื่อสู้กับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร จะเกิดทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งอยู่ที่เราจะนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างไร เช่น หากผลออกมาดีเราอาจจะอยากทำต่อเพราะผลลัพธ์ที่ออกมาดีมาเสริมแรง แต่ ถ้าเราหลงระเริงในสิ่งที่ทำมากเกินไปอันเนื่องจากความสำเร็จนั่นจะทำให้ก้าวไปสู่สิ่งที่ผิดพลาดได้ เพราะเราขาดความระมัดระวัง มีความมั่นใจมากเกินไป และถ้าผลออกมาในทิศทางที่เลวร้าย ถึงแม้จะทำให้เรารู้สึกท้อถอยหมดแรงบันดาลใจ แต่ถ้าหากนำความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้นมาเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวต่อเพื่อสู้กับความล้มเหลวที่เกิดขึ้น
สำหรับพลังของแรงบันดาลใจที่สูงส่ง
ที่ไม่เคยมอดดับ ร้อนแรง และขับเคลื่อนให้เราทะยานสร้างสรรค์ต่อ นั่นคือ
จุดสูงสุดของแรงบันดาลใจ หากใครมีเจ้าแรงบันดาลที่ว่านี้
ไม่ว่าเรื่องอะไรที่คุณคิดหรือสิ่งที่คุณทำจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน
เพราะมันจะนำคุณพุ่งไปอย่างผู้ชนะที่ทำลายทุกสิ่งกีดขวาง
เมื่อคุณอ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะเกิดคำถามขึ้นว่า
แรงบันดาลใจอยู่ที่ไหน ทำอย่างไรที่จะมีแรงบันดาลใจ แรงบันดาลใจเกิดจากอะไร จากภายนอกรอบๆตัวเราหรือภายในตัวเราหรือในความคิดของเราเอง
ถ้าวันหนึ่งเรามีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์สิ่งสำคัญขึ้นแล้วเราถูกทำลายลง
เราจะคอยเติมให้ แก่นของแรงบันดาลใจมีพลังได้อย่างไร
และถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ได้สร้างอะไรหรือคิดทำอะไรเลยเนื่องจากมีความรู้สึกว่า
ไม่มีแรงบันดาลใจใดที่จะดลให้คุณทำ แล้วจะทำอย่างไร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น