ตั้งแต่เกิดมาเราพบปะกับผู้คนเหมือนดั่งพสุธาพบปะกับสายฝน
เหมือนกับต้นไม้ที่รอสายน้ำมาหล่อเลี้ยง
เหมือนต้นไม้ที่เจริญงอกงามขึ้นไปตามสภาวะแวดล้อมที่พรั่งพร้อม
ดั่งต้นไม้ที่เติบโตตราบเท่าที่สารอาหารยังคงมีอยู่
การพบปะผู้คนเปรียบดั่งการได้รับสารอาหารให้ชีวิต
นำมาสู่การพัฒนาความคิด ความรู้ ประสบการณ์ให้เพิ่มขึ้นตราบเท่าช่วงเวลาที่มีของเรา
โดยการแลกเปลี่ยนวาจา การกระทำ
ซึ่งจะทำให้เราขยับความสัมพันธ์จากการพบปะกันในครั้งแรกไปสู่ครั้งต่อๆไป
หากความสัมพันธ์ของเราเพิ่มมากขึ้น
ลึกซึ้งเข้าไปภายในกลายเป็นความผูกพันระหว่างบุคคลต่อบุคคล
เราจะให้เวลากับความผูกพันนี้เฉพาะเจาะจงมากกว่าใคร
เหมือนดั่งมดที่เลือกน้ำตาล
เหมือนกับแมวที่เลือกปลาให้เป็นของโปรด
เราจะนำเรื่องราวต่างๆที่เราได้พบเจอมาแบ่งปัน
ทั้งความเลวร้ายของชีวิตที่เต็มไปด้วยบาลแผล ทั้งความสบายใจ
ความสุขสำเร็จอันภาคภูมิ และพร้อมเสียสละช่วยเหลือเหมือนกับกระจกสะท้อนที่ให้ความเท่าเทียมกับของจริง
เราต่างค้นหา “มิตรแท้” เหมือนดั่งการหาหยดน้ำที่มีคุณค่ามากที่สุดท่ามกลางห่าพายุกระหน่ำ
ผู้คนที่เราให้ระดับความสัมพันธ์โดยใช้คำนามที่เรียกว่า
เพื่อนหรือมิตรสหาย บุคคลเหล่านั้นได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าเพื่อนมากน้อยแค่ไหน
หลายคนเข้าใจว่า เพื่อน คือ ที่ระบายความทุกข์ ความเศร้าโศกเสียใจ ความผิดหวัง
ที่พึ่งพิงยามเจอปัญหา ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าเพื่อนทั้งหลายจะโทรมาปรึกษา นัดเจอ กินข้าวและพูดคุยแต่เรื่องเหล่านี้
ถามว่าจะมีคนที่เรียกว่าเพื่อนกี่คน
ที่เมื่อเวลามีความสุขแล้วโทรมาหาหรือมาเยี่ยมเยียน
เพื่อบอกกล่าวถึงความสุขเหล่านั้น อยากให้เราได้รับความสุขแบบที่เขารับ หรือ
พาเราไปหาความสุข ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิต เพื่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งแม้คำเรียกนั้นจะเป็นคำสั้นๆ
ง่ายๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้พบหรือพูดคุยกันจะนำแต่เรื่องที่เป็นความสุขมาให้เรา
หากเราหันไปมองเพื่อนเราจริงๆ
เราจะพบคนที่มีลักษณะแบบหลังนี้น้อยมากหรืออาจจะหาไม่ได้เลยก็เป็นได้

แล้วการสรรหาเพื่อนแท้จะทำได้อย่างไร คำถามนี้เกิดขึ้นกับทุกคน ทำให้เกิดวิธีการที่แตกต่างกันไปในการหาเกณฑ์มาใช้เป็นตัววัดว่าเพื่อนที่เราคบอยู่ว่าเป็นเพื่อนแท้หรือไม่
บ้างใช้การลองใจ โดยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นมีบททดสอบต่างๆ ที่เราตั้งไว้ ถ้าคนๆนั้นเขาทำตามที่คิด
เราก็จะให้ใจให้คำว่าเพื่อนแท้
บ้างใช้เวลาและรอให้สถานการณ์จริงๆเกิดขึ้นแล้วดูผลลัพธ์
ผลของการกระทำปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อหน้า
แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่าเพื่อน
ซึ่งคนเหล่านั้นมีเพื่อนไว้เพื่อใช้ประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้น
พวกเราหลายคนพยายามหาเพื่อนที่มีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกันหรือมีความคิดเห็น
มุมมองที่ออกไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งมีวิธีการหนึ่งที่จะทำเราได้รู้จักกับคนที่น่าจะเป็นเพื่อนสนิทกับเราได้
สามารถเข้าใจ เข้าถึงหรือเรียกว่า อารมณ์เดียวกัน วิธีการนั้นก็คือ
การทำงานร่วมกัน เพราะการทำงานจะทำให้บุคคลได้แสดงความคิดเห็น มุมมอง
ผ่านคำพูดและการกระทำ ปฏิกิริยาโต้ตอบในสภาวะของการเจอปัญหารุมเร้า
เมื่อเป้าหมายหรือผลลัพธ์ของงานมีผลต่อความก้าวหน้า ภาพลักษณ์ ความสามารถ
ความเป็นตัวตนของแต่ละคน
และหากเป้าหมายมีเรื่องของเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้มาเป็นส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง
คุณจะได้เห็นสันดานที่แท้จริงของมนุษย์
คุณจะรู้ว่าคนๆนั้นจะเป็นบุคคลที่จะเข้ากับคุณได้ตลอดชีวิตของคุณ
หรือเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่พอคบได้แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก
หรือคุณอาจจัดให้บุคคลนั้นกลายเป็นแค่คนรู้จักในใจคุณก็ได้
เพราะงานจะทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ของบุคคล
ทิ้งท้ายไปด้วยวิธีการทำให้เพื่อนของเราจัดเราเข้าไปอยู่เป็นมิตรแท้คนหนึ่งในบรรดากลุ่มเพื่อนของเขา
ให้เพื่อนก่อน
โดยไม่รอให้เพื่อนให้เรา เราถึงจะให้ตอบแทน
ให้เรื่องครอบครัวของเพื่อนสำคัญกว่าเรื่องของเรา
ให้ความทุกข์ของเพื่อนสำคัญกว่าความทุกข์ของเรา
ให้ทางเลือกในการตัดสินใจอย่าตัดสินใจแทนเพื่อน
ให้ความช่วยเหลือที่จะสามารถทำให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่มีเรา
ให้เวลาของเพื่อนสำคัญกว่าเวลาของเรา
ให้โอกาสเพื่อนในการเลือกที่จะมาพบปะกับเราหรือใช้เวลาของเขาไปทำอย่างอื่น