วันศุกร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

แด่จุดหมาย


ระหว่างเป้าหมายกับผลลัพธ์ของความสำเร็จ จะมีความรู้สึกหนึ่งเกิดขึ้นเสมอ เมื่อครั้งเราปรารถนาสิ่งใดสิ่งหนึ่งในชีวิต เฉกเช่นการมองเป้าที่อยู่นิ่งหรือกำลังเคลื่อนไหว ขณะที่เราถือปืนอยู่ในมือกำลังเล็งไปที่เป้าหมายผ่านศูนย์เล็งตามหลักการของการยิงเพื่อพิฆาตจุดหมายให้แน่นิ่งสิ้นชีพ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่เรียกว่า  “ความคาดหวัง”

เราอยู่กับความคาดหวังเสมอ เราอยากให้ทุกคนที่อยู่ใกล้เรามีความสุข ชื่นชอบเรา รักเรา จากการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น การกระทำ การสร้างสรรค์ต่างๆ  ซึ่งเราจะมีภาพที่ต้องการให้ทุกคนจดจำไว้ในแบบที่เราคิด เช่น

อยากให้คนอื่นรักเราเพราะเราเป็นคนตลก อยากให้คนอื่นรักเราเพราะเราเป็นที่พึ่งได้เสมอ เราคาดหวังให้การเรียนประสบความสำเร็จ เราคาดหวังให้การงานก้าวหน้า เราคาดหวังให้อาชีพสร้างเงินทองได้ตามปรารถนา เราคาดหวังจะสร้างครอบครัวที่แสนอบอุ่น เราคาดหวังจะมีเพื่อนๆที่ดี เราคาดหวังจะสุขสบายในตอนแก่ เราคาดหวังจะได้รับการยอมรับในสิ่งที่ทำ

เมื่อเราอยู่กับความคาดหวังมากขนาดนี้ เราน่าจะลองทำความเข้าใจกับมันดูสักตั้ง เพื่อให้เราอยู่กับความคาดหวังอย่างบันเทิงใจไปตลอดการดำเนินชีวิตของเรา



            เราลองมาดูปลายทางของความคาดหวังเพื่อให้เห็นภาพประกอบ เมื่อความเกิดคาดหวังจะมีผลลัพธ์เกิดขึ้นซึ่งพอจะสรุปได้เป็น 3 แนวทาง คือ

1.ผลที่ออกมาดีกว่าสิ่งที่เราคาดหวังไว้มาก เรียกได้ว่าดีเกินคาดนั่นเอง

2.ผลที่ออกมาตรงตามคาดหวัง หากคิดเป็นตัวเลขสมมุติ จะได้เลขนั้นแป๊ะๆ

3.ผลที่ออกมาแย่กว่าสิ่งที่เราคาดหวัง ร้ายแรงจนกลายเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก่อน

            ครั้งเกิดความคาดหวังขึ้นเมื่อใด ปลายทางของมันจะแยกออกมาเป็น 3 ทางนี้เสมอ ซึ่งจริงๆแล้วหลักการนี้เป็น หลักการในการวางแผนเชิงธุรกิจ แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตได้เช่นกัน เมื่อเราคาดหวังในสิ่งใดก็ตาม ผลของมันจะมีความเป็นไปได้ในทิศทางเหล่านี้เสมอ

เมื่อรู้อย่างนี้จึงเกิดวิธีการที่น่าจะนำมาปรับใช้ คือ การวางแผนเพื่อรองรับกับสถานการณ์ทั้ง 3 ให้รัดกุมที่สุด ตัวอย่างเช่น เรานัดกับแฟนว่าจะไปกินข้าวเย็นที่ร้านอาหารสุดโปรด กรณีที่ไปถึงทันเวลาที่กำหนดก็ถือว่าดีไป

แต่ถ้าเราเดินทางไปถึงเร็ว มีเวลาเหลือเยอะมากเนื่องจากรถไม่ติดและลูกค้าที่ร้านอาหารน้อยทำให้ไม่เสียเวลาในการรออาหารเสิร์ฟ เราจึงวางแผนว่าจะไปดูหนังเรื่อง “แก้วน้ำ 6” เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าจะทำอะไรต่อ

และในกรณีที่ไปไม่ทันกาล เนื่องจากรถติดหนัก พอไปถึงร้านปิด เราก็จะไปกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังที่เปิดตลอดทั้งคืน ซึ่งเลยจากร้านสุดโปรดไปอีก 2 กิโล ท้ายที่สุดมื้อเย็นนี้จะได้ไม่ต้องไปจบลงกับบะหมี่สำเร็จรูปที่บ้าน




แม้เราจะพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้สิ่งที่เราสร้างสรรค์ออกมาตรงตามความคาดหวัง เราน่าจะมีแผนสำรองเหล่านี้ไว้ เพื่อหลีกเลี่ยงกับความล้มเหลว หรือเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด และเพื่อหลีกหนีความคาดหวังที่จะกลายเป็นเรื่องอมทุกข์สำหรับเรา เมื่อทิศทางของผลลัพธ์เปลี่ยนไปในทางใด เราจะรู้ว่าเราควรขยับตัวต่อไปอย่างไร เพื่อให้เราดำเนินการไปตามเป้าหมายต่อไปได้ ไม่ต้องมาพบกับความสับสนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งการที่เราหยุดชะงักกับเหตุการณ์ที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง ในขณะที่เราไม่ได้เตรียมตัวไว้เลย เราจะต้องเสียเวลาในคิดตอบโต้ต่อเหตุการณ์นั้นซึ่งอาจทำให้เราเสียโอกาสได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น