วันพุธที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เลือกเจอไม่ได้แต่เลือกคบได้


            ตั้งแต่เกิดมาเราพบปะกับผู้คนเหมือนดั่งพสุธาพบปะกับสายฝน

เหมือนกับต้นไม้ที่รอสายน้ำมาหล่อเลี้ยง

เหมือนต้นไม้ที่เจริญงอกงามขึ้นไปตามสภาวะแวดล้อมที่พรั่งพร้อม

ดั่งต้นไม้ที่เติบโตตราบเท่าที่สารอาหารยังคงมีอยู่

การพบปะผู้คนเปรียบดั่งการได้รับสารอาหารให้ชีวิต นำมาสู่การพัฒนาความคิด ความรู้ ประสบการณ์ให้เพิ่มขึ้นตราบเท่าช่วงเวลาที่มีของเรา โดยการแลกเปลี่ยนวาจา การกระทำ ซึ่งจะทำให้เราขยับความสัมพันธ์จากการพบปะกันในครั้งแรกไปสู่ครั้งต่อๆไป หากความสัมพันธ์ของเราเพิ่มมากขึ้น ลึกซึ้งเข้าไปภายในกลายเป็นความผูกพันระหว่างบุคคลต่อบุคคล เราจะให้เวลากับความผูกพันนี้เฉพาะเจาะจงมากกว่าใคร

เหมือนดั่งมดที่เลือกน้ำตาล

เหมือนกับแมวที่เลือกปลาให้เป็นของโปรด

เราจะนำเรื่องราวต่างๆที่เราได้พบเจอมาแบ่งปัน ทั้งความเลวร้ายของชีวิตที่เต็มไปด้วยบาลแผล ทั้งความสบายใจ ความสุขสำเร็จอันภาคภูมิ และพร้อมเสียสละช่วยเหลือเหมือนกับกระจกสะท้อนที่ให้ความเท่าเทียมกับของจริง

เราต่างค้นหา มิตรแท้ เหมือนดั่งการหาหยดน้ำที่มีคุณค่ามากที่สุดท่ามกลางห่าพายุกระหน่ำ

            ผู้คนที่เราให้ระดับความสัมพันธ์โดยใช้คำนามที่เรียกว่า เพื่อนหรือมิตรสหาย บุคคลเหล่านั้นได้เข้าใจความหมายที่แท้จริงของคำว่าเพื่อนมากน้อยแค่ไหน หลายคนเข้าใจว่า เพื่อน คือ ที่ระบายความทุกข์ ความเศร้าโศกเสียใจ ความผิดหวัง ที่พึ่งพิงยามเจอปัญหา ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าเพื่อนทั้งหลายจะโทรมาปรึกษา นัดเจอ กินข้าวและพูดคุยแต่เรื่องเหล่านี้ ถามว่าจะมีคนที่เรียกว่าเพื่อนกี่คน ที่เมื่อเวลามีความสุขแล้วโทรมาหาหรือมาเยี่ยมเยียน เพื่อบอกกล่าวถึงความสุขเหล่านั้น อยากให้เราได้รับความสุขแบบที่เขารับ หรือ พาเราไปหาความสุข ประสบการณ์ใหม่ๆให้กับชีวิต เพื่อความสัมพันธ์ที่ลึกซึ่งแม้คำเรียกนั้นจะเป็นคำสั้นๆ ง่ายๆ ทุกครั้งที่มีโอกาสได้พบหรือพูดคุยกันจะนำแต่เรื่องที่เป็นความสุขมาให้เรา หากเราหันไปมองเพื่อนเราจริงๆ เราจะพบคนที่มีลักษณะแบบหลังนี้น้อยมากหรืออาจจะหาไม่ได้เลยก็เป็นได้



      แล้วการสรรหาเพื่อนแท้จะทำได้อย่างไร คำถามนี้เกิดขึ้นกับทุกคน ทำให้เกิดวิธีการที่แตกต่างกันไปในการหาเกณฑ์มาใช้เป็นตัววัดว่าเพื่อนที่เราคบอยู่ว่าเป็นเพื่อนแท้หรือไม่ บ้างใช้การลองใจ โดยการสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นมีบททดสอบต่างๆ ที่เราตั้งไว้ ถ้าคนๆนั้นเขาทำตามที่คิด เราก็จะให้ใจให้คำว่าเพื่อนแท้ บ้างใช้เวลาและรอให้สถานการณ์จริงๆเกิดขึ้นแล้วดูผลลัพธ์ ผลของการกระทำปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นต่อหน้า แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับคำว่าเพื่อน ซึ่งคนเหล่านั้นมีเพื่อนไว้เพื่อใช้ประโยชน์แก่ตนเองเท่านั้น

            พวกเราหลายคนพยายามหาเพื่อนที่มีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกันหรือมีความคิดเห็น มุมมองที่ออกไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งมีวิธีการหนึ่งที่จะทำเราได้รู้จักกับคนที่น่าจะเป็นเพื่อนสนิทกับเราได้ สามารถเข้าใจ เข้าถึงหรือเรียกว่า อารมณ์เดียวกัน วิธีการนั้นก็คือ การทำงานร่วมกัน เพราะการทำงานจะทำให้บุคคลได้แสดงความคิดเห็น มุมมอง ผ่านคำพูดและการกระทำ ปฏิกิริยาโต้ตอบในสภาวะของการเจอปัญหารุมเร้า เมื่อเป้าหมายหรือผลลัพธ์ของงานมีผลต่อความก้าวหน้า ภาพลักษณ์ ความสามารถ ความเป็นตัวตนของแต่ละคน และหากเป้าหมายมีเรื่องของเงินหรือผลประโยชน์ที่ได้มาเป็นส่วนตนเข้ามาเกี่ยวข้อง คุณจะได้เห็นสันดานที่แท้จริงของมนุษย์ คุณจะรู้ว่าคนๆนั้นจะเป็นบุคคลที่จะเข้ากับคุณได้ตลอดชีวิตของคุณ หรือเป็นแค่เพื่อนคนหนึ่งที่พอคบได้แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก หรือคุณอาจจัดให้บุคคลนั้นกลายเป็นแค่คนรู้จักในใจคุณก็ได้ เพราะงานจะทำให้เราได้เห็นธาตุแท้ของบุคคล

            ทิ้งท้ายไปด้วยวิธีการทำให้เพื่อนของเราจัดเราเข้าไปอยู่เป็นมิตรแท้คนหนึ่งในบรรดากลุ่มเพื่อนของเขา

ให้เพื่อนก่อน โดยไม่รอให้เพื่อนให้เรา เราถึงจะให้ตอบแทน

ให้เรื่องครอบครัวของเพื่อนสำคัญกว่าเรื่องของเรา

ให้ความทุกข์ของเพื่อนสำคัญกว่าความทุกข์ของเรา

ให้ทางเลือกในการตัดสินใจอย่าตัดสินใจแทนเพื่อน

ให้ความช่วยเหลือที่จะสามารถทำให้เขาช่วยเหลือตัวเองได้โดยไม่มีเรา

ให้เวลาของเพื่อนสำคัญกว่าเวลาของเรา

ให้โอกาสเพื่อนในการเลือกที่จะมาพบปะกับเราหรือใช้เวลาของเขาไปทำอย่างอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น