หากเปรียบชีวิตเหมือนกับการเล่นหมากรุก เพื่อเอาชนะคู่แข่ง
เราจะต้องกำจัดลูกน้องให้หมดเหลือเพียงหัวหน้าเพียงตัวเดียว หรือ ใช้วิธีการหลอกล่อ
ให้หัวหน้าตายจากการรุกด้วยตัวหมากของเรา แต่ถ้ากระดานที่เราเล่นอยู่มันมีช่องมากมายให้ตัวหมากได้เดินเปรียบดั่งการนับดวงดาวในจักรวาล
แล้วคิดว่าเกมหมากรุกที่เล่นอยู่จะมีวันสิ้นสุดไหม หากเป็นเช่นนี้เราจะพบว่าเล่นเท่าไหร่ก็ไม่มีวันที่จะไล่ตัวหมากของฝ่ายตรงข้ามให้พ่ายแพ้ไปได้
เพราะเรากำลังเล่นอยู่บนกระดานที่ไร้ขอบเขต
เราลองมามองดูว่า เมื่อเราสามารถคว้าความสำเร็จที่ไล่ตามมาได้หลังจากนั้นจะทำอย่างไรต่อไป
เพราะเราอยู่บนกระดานที่ไร้ขอบเขต เปรียบกับการวิ่งเข้าเส้นชัยที่อยู่แสนไกล
พอเราไปถึงเส้นชัย เราดื่มด่ำกับความสำเร็จที่ได้อยู่พักหนึ่ง
เมื่อเราเริ่มหันไปมองข้างๆ มองเป็นลักษณะแนวนอน หรือการมองซ้ายมองขวา
เราจะเห็นคนอื่นๆที่ก้าวขึ้นมาอยู่จุดเดียวกับเรา
เมื่อเรานำมาเปรียบเทียบเราจะรู้สึกว่าความสำเร็จที่ได้ยังไม่ใช่จุดสูงสุด
เพราะยังมีคนที่ได้เท่าเรา และมีคนที่ได้ความสำเร็จมากกว่าเรา ครั้งเรามองไปข้างหน้า
เมื่อเป็นเช่นนี้ทำเราวิ่งไล่ตามความสำเร็จใหม่อีกครั้งหนึ่ง
หากเรานับเลข
ถามว่ามันมีเพดานของการนับไม่ได้ไหมหรือจุดสิ้นสุดของการนับเลขหรือไม่ คำตอบของคณิตศาสตร์บอกไม่มี
มีแต่อนันต์ นั่นคือ ไม่มีสิ้นสุด
เมื่อเป้าหมายของเรามีตัวเลขเป็นส่วนหนึ่งในการวัด
ครั้งแรกเราอาจตั้งเป้าหมายว่าเราจะทำให้ได้ 100 แต่พอเราได้ เราจะขยับเป้าหมายเป็น
1000 แล้วจะเป็นลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ เมื่อไม่มีเพดานมากั้นเราก็จะก้าวต่อไป ต่อไป และต่อไป
อย่างอนันต์ ถ้าเราไม่เคยกำหนดจุดสิ้นสุดของการสร้างสรรค์เพื่อให้ได้ความสำเร็จมาครอง
เราจะกลายเป็นนักล่า ไล่ล่าความสำเร็จที่ไร้ขอบเขต
ดังนั้นเราต้องตั้งขอบเขตของเป้าหมาย ว่าเราจะพอแค่ไหน
เพราะเมื่อเราไปถึงแล้วเราจะได้ไม่กลับมาโทษหลักการแนวคิดที่เราเลือกใช้ในการเริ่มต้น
แล้วเราจะรู้ว่าแนวคิดหนึ่งในวิธีทั้ง 2 ที่กล่าวไปใช้ได้ทั้งคู่
แต่จะใช้ได้เพราะมีขอบเขต หากเราไม่สร้างขอบเขตว่าจะสุดแค่ไหน
พอเราตั้งเป้าหมายมากๆ เมื่อไปไม่ถึงกลับไปโทษวิธีการที่เลือก ว่าเราเลือกวิธีการเริ่มต้นที่ผิด
เริ่มสิ่งที่เราทำผิด จึงนำพาความล้มเหลวมาให้
และความคิดที่ว่าถ้าเราพอใจ
จะทำให้เราหยุดอยู่กับที่ เราจะตกรถ ตกราง เพราะคนอื่นๆ เขาวิ่งอยู่ตลอด แต่ถามว่า
สิ่งที่ทุกคนวิ่งตามไปมันไม่เคยสิ้นสุดไหมหละ
แล้วมีเหตุผลอะไรที่จะต้องตามความไม่สิ้นสุดนี้ไป
ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นไปเรื่อยๆ มองจนหงายท้องก็ยังไม่เห็น
จุดสิ้นสุดไม่ได้อยู่ข้างหน้า มันอยู่ตรงนี้ อยู่ที่เราเอง
จะเห็นได้ว่ามีสาขาวิชาใดบ้างที่เรียนจบการศึกษาแล้ว
ผู้ที่อยู่ในสายอาชีพนั้นไม่ต้องศึกษาเพิ่มเติมจากโลกภายนอก
ทุกอย่างจึงอยู่ที่เราว่าเราจะพอแค่ไหน
เราจะวิ่งตามผู้นำที่ไม่เคยมีตัวตนหรือวิ่งเข้าหาความเป็นอนันต์หรือไม่
เราจะสรรหาความแน่นอนอยู่บนความไม่นอนนอนหรือไม่
ถ้าเราถามคำถามเหล่านี้ก่อนการเริ่มต้น ในระหว่างทาง และเมื่อไปถึงปลายทาง
ก็น่าจะทำให้เราไม่ยึดติดในความสำเร็จจนนำความทุกข์ ความกังวลมาให้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น