วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สิ่งที่ซ่อนอยู่หลังการเลือกสรร


            ก่อนพระอาทิตย์จะหมุนไปให้แสงสว่างแด่อีกซีกโลกหนึ่ง ดูเหมือนว่าแสงแดดที่สาดส่องอันร้อนแรงจนเห็นแสงที่กระทบทุกพื้นผิวของวัตถุได้อย่างชัดเจนในคราวนี้ ไม่ได้นำพาอุณหภูมิที่ร้อนระอุมาสู่ผิวหนังอันเปราะบาง เหมือนครั้งที่เราต้องคอยทะนุถนอมในช่วงที่แสงอาทิตย์แผดเผาจนแสบร้อนไปทั่วทั้งกาย แม้จะมีเครื่องนุ่งห่มที่สร้างความมั่นใจในภาพลักษณ์ปกคลุมอยู่  กาลหลังแรกแห่งอรุณที่แสนสดชื่นของดาวฤกษ์ดวงนี้กำลังส่องแสงสีส้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายของวัน

           ขณะสายตากำลังสอดส่องเป็นแนวกว้าง เพลิดเพลินเป็นบางครั้งเมื่อมองใบหน้าที่โสภาสวนทางสู่ทิศเบื้องหลัง เสียงเปล่งถ้อยคำวิ่งตรงเข้ามายังโสดประสาทของการได้ยิน ซึ่งเป็นเสียงที่เรียกร้องให้เหล่าผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านชายตาชมสินค้าจากนักค้ารุ่นเยาว์จนถึงผู้ช่ำชองในการค้าขายที่มีวิธีการเรียกลูกค้าอันต่างออกไป จนในบางครั้งต้องหันไปมองว่าร้านค้าที่มีนักค้าคนกลางรู้จักเรียกร้องความสนใจผู้นั้นขายอะไรอยู่ แต่นั่นไม่ได้ทำให้สองขาที่กำลังก้าวอย่างมุ่งมั่นเพื่อไปหาเกิบคู่ใหม่สวมใส่ให้สมความตั้งใจซื้อ หยุดชะงักตามเสียงเรียกเหล่านั้น อันเป็นต้นเหตุของการมายังแหล่งรวมสินค้าแต่งประดับร่างเนื้อสำหรับผู้ที่ต้องการแสดงออกถึงสไตล์การแต่งตัว

            โซนของร้านค้าที่ไม่ได้มีการจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วน ว่าถ้าหากเดินโซนซ้ายจะพบกับสินค้าประเภทเสื้อ เดินโซนขวาจะเจอกับกางเกง เมื่อมีการจับจองเพื่อนำเสนอสินค้ามากมายหลายชนิดโดยไม่ได้เป็นหมวดหมู่อย่างนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในป่ารกทึบเพื่อสรรหาผลไม้ที่สุกงอมพอดีกินซักลูก จำต้องอาศัยสองท้าวก้าวเดินฝ่าดงเหล่าผู้คนหลากเพศ และใช้การจดจ่ออย่างมหาศาลพร้อมสายตาที่สาดส่องหาร้านรองเท้า




ครั้งเมื่อได้เจอร้านที่ขายเฉพาะสิ่งของห่อหุ้มเท้านี้ จึงเริ่มต้นด้วยการมองรองเท้าตามลักษณะที่ร้านค้านั้นจัดวางไว้ให้ บ้างวางให้เห็นด้านบน บ้างวางให้เห็นด้านข้าง บ้างวางให้เห็นแต่หัวรองเท้า บ้างวางกับพื้น บ้างแขวนเอาไว้ให้แหงนมอง การสาดสายตาเพื่อหารองเท้าที่โดนใจในร้านเกิบนี้ เหมือนกำลังเลือกส้มที่สวยที่สุด มีผิวที่เนียนสะอาดน่าแกะมารับประทานมากที่สุดบนกองพะเนินส้มที่สูงท่วมหัว

กว่าจะได้หยิบจับมาหมุนดูรายละเอียดความประณีตของการสร้างสรรค์ น่องขาถึงกับปวดร้าวไปทั่วเนื่องจากการเดินหาร้านเกิบโดยเฉพาะ เหงื่อซึมไหลผ่านแผ่นหลังกว่าจะเจอร้านที่มีสไตล์ตามต้องการ เมื่อเจอร้านค้าที่ตรงแนว ยังต้องเลือกเจาะจงรองเท้าที่ตรงรสนิยม กว่าเจอรองเท้าต้องประสงค์ แถบจำไม่ได้ว่าได้ผ่านการมองรองเท้ามากี่คู่ กว่าจะเจอเกิบที่เข้าใจในความชอบและราคาที่เหมาะสมกับเพดานนามธรรมที่ตั้งไว้ในใจ ถึงกับน้ำลายแห้งเพราะการต่อรอง แม้จะแสดงความจำนง ประสงค์ความเป็นเจ้าของ ใคร่ร้องต่อราคาเพื่อความภูมิใจที่ได้ใช้ฝีปากอันอยู่ในฐานะผู้ซื้อ ซึ่งมีอำนาจในการต่อรองมากกว่า แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับนักค้าขายที่เป็นเจ้าของมันอยู่ตามอัตราการแลกเปลี่ยนที่เขาเป็นผู้กำหนด เพราะรัศมีของรองเท้าที่ฉายแสงออกมาสัมผัสกับความรู้สึกที่อยู่เบื้องลึกบอกอยู่ภายในว่าโดนที่สุด ทำให้ต้องยอมแลกแม้จะทะลุเพดานราคาที่กั้นไว้ เนื่องจากเห็นว่ามันมีมูลค่าอย่างมโหฬารเมื่อเทียบกับรองเท้าที่ผ่านตามานับไม่ถ้วนในการเลือกสรรคราวนี้

หลังรองเท้าที่จะกลายเป็นเกิบคู่ใจไปทุกๆที่ในโลก ทุกๆ สถานการณ์ที่พบเจอกับผู้คนมาอยู่ในมือ เกิดคาดหวังว่ามันจะแสดงพลังรัศมีที่เปล่งออกมาเหมือนตอนที่ถูกวางอยู่ในร้านแล้วฉายแววเด่นกว่าสิ่งของห่อหุ้มเท้าคู่ใดๆ ในขณะกำลังมุ่งตรงกลับถิ่นฐาน เพื่อลองสวมใส่รองเท้าที่แสนจะถูกตาถูกใจอีกครั้งและเดินเล่นอยู่ในบ้านให้หนำทรวง ระหว่างก้าวขาพลางนึกคิด  ความรู้สึกเหล่านี้ตั้งอยู่ได้ไม่นาน ก็ได้เพลิดเพลินไปกับหน้าตาอันโสภาที่สวนมาของผู้คนหลากเพศ พอนึกถึงรองเท้าเลยก้มมองเกิบของเหล่าผู้คนที่เดินกันอย่างอุตะรุด แลได้เห็นความโดดเด่นของรองเท้าแต่ละคู่ที่แต่ละคนสวมใส่ เหมือนเจอกับสิ่งมหัศจรรย์ เพราะไม่มีรองเท้าคู่ใดเหมือนกันเลย ทุกคู่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนได้ผ่านการเลือกสรรรองเท้าแบบที่เพิ่งจบลงไม่นานมานี้ แต่ทำไมไม่มีใครซักคนที่ก้าวขาไปพร้อมกับการก้มมองรองเท้าของคนอื่นๆ แล้วเพลิดเพลินกับมัน จะเห็นมีแต่ต่างคน ต่างสบตากัน มองใบหน้าที่โสภาบ้าง ไม่โสภิณบ้าง แล้วจากกันไปตามทิศทางของแต่ละคน


เราเสียเวลาไปมากมายกับการเลือกรองเท้าซักหนึ่งคู่ แต่มันไม่ได้สร้างพลังดึงดูดได้เท่ากับที่มันเคยดึงดูดเราในคราวแรกที่เจอกัน ไม่ได้ฉายแสงเหล่านั้นให้กับเหล่าผู้คนที่เดินผ่านเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาแค่ส่งสายตาไปยังใบหน้าของแต่ละคน ซึ่งเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทั้งหลายสนใจอะไรอยู่เท่านั้น......

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น