ก่อนพระอาทิตย์จะหมุนไปให้แสงสว่างแด่อีกซีกโลกหนึ่ง
ดูเหมือนว่าแสงแดดที่สาดส่องอันร้อนแรงจนเห็นแสงที่กระทบทุกพื้นผิวของวัตถุได้อย่างชัดเจนในคราวนี้
ไม่ได้นำพาอุณหภูมิที่ร้อนระอุมาสู่ผิวหนังอันเปราะบาง เหมือนครั้งที่เราต้องคอยทะนุถนอมในช่วงที่แสงอาทิตย์แผดเผาจนแสบร้อนไปทั่วทั้งกาย
แม้จะมีเครื่องนุ่งห่มที่สร้างความมั่นใจในภาพลักษณ์ปกคลุมอยู่ กาลหลังแรกแห่งอรุณที่แสนสดชื่นของดาวฤกษ์ดวงนี้กำลังส่องแสงสีส้มที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นเป็นครั้งสุดท้ายของวัน
ขณะสายตากำลังสอดส่องเป็นแนวกว้าง เพลิดเพลินเป็นบางครั้งเมื่อมองใบหน้าที่โสภาสวนทางสู่ทิศเบื้องหลัง เสียงเปล่งถ้อยคำวิ่งตรงเข้ามายังโสดประสาทของการได้ยิน ซึ่งเป็นเสียงที่เรียกร้องให้เหล่าผู้คนที่เดินผ่านหน้าร้านชายตาชมสินค้าจากนักค้ารุ่นเยาว์จนถึงผู้ช่ำชองในการค้าขายที่มีวิธีการเรียกลูกค้าอันต่างออกไป จนในบางครั้งต้องหันไปมองว่าร้านค้าที่มีนักค้าคนกลางรู้จักเรียกร้องความสนใจผู้นั้นขายอะไรอยู่ แต่นั่นไม่ได้ทำให้สองขาที่กำลังก้าวอย่างมุ่งมั่นเพื่อไปหาเกิบคู่ใหม่สวมใส่ให้สมความตั้งใจซื้อ หยุดชะงักตามเสียงเรียกเหล่านั้น อันเป็นต้นเหตุของการมายังแหล่งรวมสินค้าแต่งประดับร่างเนื้อสำหรับผู้ที่ต้องการแสดงออกถึงสไตล์การแต่งตัว
โซนของร้านค้าที่ไม่ได้มีการจัดสรรอย่างเป็นสัดส่วน
ว่าถ้าหากเดินโซนซ้ายจะพบกับสินค้าประเภทเสื้อ เดินโซนขวาจะเจอกับกางเกง
เมื่อมีการจับจองเพื่อนำเสนอสินค้ามากมายหลายชนิดโดยไม่ได้เป็นหมวดหมู่อย่างนี้ ทำให้รู้สึกเหมือนเดินเข้าไปในป่ารกทึบเพื่อสรรหาผลไม้ที่สุกงอมพอดีกินซักลูก
จำต้องอาศัยสองท้าวก้าวเดินฝ่าดงเหล่าผู้คนหลากเพศ และใช้การจดจ่ออย่างมหาศาลพร้อมสายตาที่สาดส่องหาร้านรองเท้า
ครั้งเมื่อได้เจอร้านที่ขายเฉพาะสิ่งของห่อหุ้มเท้านี้ จึงเริ่มต้นด้วยการมองรองเท้าตามลักษณะที่ร้านค้านั้นจัดวางไว้ให้ บ้างวางให้เห็นด้านบน บ้างวางให้เห็นด้านข้าง
บ้างวางให้เห็นแต่หัวรองเท้า บ้างวางกับพื้น บ้างแขวนเอาไว้ให้แหงนมอง การสาดสายตาเพื่อหารองเท้าที่โดนใจในร้านเกิบนี้ เหมือนกำลังเลือกส้มที่สวยที่สุด มีผิวที่เนียนสะอาดน่าแกะมารับประทานมากที่สุดบนกองพะเนินส้มที่สูงท่วมหัว
กว่าจะได้หยิบจับมาหมุนดูรายละเอียดความประณีตของการสร้างสรรค์ น่องขาถึงกับปวดร้าวไปทั่วเนื่องจากการเดินหาร้านเกิบโดยเฉพาะ
เหงื่อซึมไหลผ่านแผ่นหลังกว่าจะเจอร้านที่มีสไตล์ตามต้องการ เมื่อเจอร้านค้าที่ตรงแนว
ยังต้องเลือกเจาะจงรองเท้าที่ตรงรสนิยม กว่าเจอรองเท้าต้องประสงค์
แถบจำไม่ได้ว่าได้ผ่านการมองรองเท้ามากี่คู่ กว่าจะเจอเกิบที่เข้าใจในความชอบและราคาที่เหมาะสมกับเพดานนามธรรมที่ตั้งไว้ในใจ
ถึงกับน้ำลายแห้งเพราะการต่อรอง แม้จะแสดงความจำนง ประสงค์ความเป็นเจ้าของ
ใคร่ร้องต่อราคาเพื่อความภูมิใจที่ได้ใช้ฝีปากอันอยู่ในฐานะผู้ซื้อ ซึ่งมีอำนาจในการต่อรองมากกว่า แต่ต้องพ่ายแพ้ให้กับนักค้าขายที่เป็นเจ้าของมันอยู่ตามอัตราการแลกเปลี่ยนที่เขาเป็นผู้กำหนด
เพราะรัศมีของรองเท้าที่ฉายแสงออกมาสัมผัสกับความรู้สึกที่อยู่เบื้องลึกบอกอยู่ภายในว่าโดนที่สุด
ทำให้ต้องยอมแลกแม้จะทะลุเพดานราคาที่กั้นไว้ เนื่องจากเห็นว่ามันมีมูลค่าอย่างมโหฬารเมื่อเทียบกับรองเท้าที่ผ่านตามานับไม่ถ้วนในการเลือกสรรคราวนี้
หลังรองเท้าที่จะกลายเป็นเกิบคู่ใจไปทุกๆที่ในโลก
ทุกๆ สถานการณ์ที่พบเจอกับผู้คนมาอยู่ในมือ เกิดคาดหวังว่ามันจะแสดงพลังรัศมีที่เปล่งออกมาเหมือนตอนที่ถูกวางอยู่ในร้านแล้วฉายแววเด่นกว่าสิ่งของห่อหุ้มเท้าคู่ใดๆ
ในขณะกำลังมุ่งตรงกลับถิ่นฐาน เพื่อลองสวมใส่รองเท้าที่แสนจะถูกตาถูกใจอีกครั้งและเดินเล่นอยู่ในบ้านให้หนำทรวง
ระหว่างก้าวขาพลางนึกคิด ความรู้สึกเหล่านี้ตั้งอยู่ได้ไม่นาน ก็ได้เพลิดเพลินไปกับหน้าตาอันโสภาที่สวนมาของผู้คนหลากเพศ
พอนึกถึงรองเท้าเลยก้มมองเกิบของเหล่าผู้คนที่เดินกันอย่างอุตะรุด แลได้เห็นความโดดเด่นของรองเท้าแต่ละคู่ที่แต่ละคนสวมใส่
เหมือนเจอกับสิ่งมหัศจรรย์ เพราะไม่มีรองเท้าคู่ใดเหมือนกันเลย
ทุกคู่มีความโดดเด่นที่แตกต่างกันออกไป ทุกคนได้ผ่านการเลือกสรรรองเท้าแบบที่เพิ่งจบลงไม่นานมานี้
แต่ทำไมไม่มีใครซักคนที่ก้าวขาไปพร้อมกับการก้มมองรองเท้าของคนอื่นๆ
แล้วเพลิดเพลินกับมัน จะเห็นมีแต่ต่างคน ต่างสบตากัน มองใบหน้าที่โสภาบ้าง ไม่โสภิณบ้าง
แล้วจากกันไปตามทิศทางของแต่ละคน
เราเสียเวลาไปมากมายกับการเลือกรองเท้าซักหนึ่งคู่ แต่มันไม่ได้สร้างพลังดึงดูดได้เท่ากับที่มันเคยดึงดูดเราในคราวแรกที่เจอกัน
ไม่ได้ฉายแสงเหล่านั้นให้กับเหล่าผู้คนที่เดินผ่านเลยแม้แต่คนเดียว พวกเขาแค่ส่งสายตาไปยังใบหน้าของแต่ละคน
ซึ่งเป็นจุดที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์ทั้งหลายสนใจอะไรอยู่เท่านั้น......
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น